ประวัติของหลวงพ่ออิน อินทญาโณหรือตาอินเทวดา
หลวงพ่ออิน อินทญาโณ เจ้าอาวาสรูปที่ ๑ วัดราษฏร์รังสรรค์หรือวัดป่าตาอินหรือวัดใหม่ตาอิน ตำบลบางกอบัว อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ
หลวงพ่ออิน ท่านเกิดในครอบครัวชาวสวน บิดาของท่านชื่อ เปล่ง เทศเนตร มารดา ชื่อ แช่ม ท่านเกิดวันอาทิตย์ แรม ๑๒ ค่ำเดือน ๗ ปีวอก ตรงกับวันที่ ๗ เดือนมิถุนายน พุทธศักราช ๒๔๓๙ บิดาให้ชื่อบุตรคนแรกนี้ว่า อิน เทศเนตร ในวัยเยาว์ท่านไม่ได้รับการศึกษาจึงทำให้ท่านไม่รู้หนังสือ แต่ด้วยสติปัญญาและปฏิภาณไหวพริบอันเป็นเลิศ ท่านสามารถจำสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ เมื่อท่านเจริญวัยจนอายุได้ ๒๐ ปี ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดกองแก้ว บวชอยู่ระยะหนึ่งจึงสึกออกมาช่วยบิดาทำสวน ต่อมาท่านได้สมรสกับ นางแดง ช้างแก้ว มีบุตรด้วยกัน ๕ คน นายอิน เทศเนตร มีฝีมือทางช่างตัดผมได้เที่ยวรับจ้างตัดผมให้แก่ชาวบ้านทั่วไปในระแวกหมู่ บ้านใกล้เคียง การแต่งกายของท่านไม่เหมือนกับบุคคลทั่วไป ท่านชอบสวมใส่เสื้อผ้าเก่า ๆ ปุปะขาดวิ่น ในช่วงที่ท่านตระเวนรับจ้างตัดผมนั้น ท่านได้ใช้เวลาว่างศึกษาวิทยาคมไสยเวทย์จากพระอาจารย์ของท่านได้แก่หลวงพ่อต่วน แห่งวัดกองแก้ว ในด้านคาถาอาคม หลวงพ่อวงษ์ วังสัปโรแห่งวัดปริวาส ผู้สร้างเสืออันโด่งดัง ส่วนในด้านกรรมฐานวิปัสนากรรมฐานนั้น ส่วนหลวงปู่ต่วนสอนในด้านวิชาการ จนมีความรู้แตกฉานในวิทยาคมศึกษาพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธ เจ้าจนเข้าใจในคำสอนนั้นอย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะด้านกรรมฐานท่านมีความสนใจมาก มีชาวบ้านบางคนคิดทดสอบท่านโดยให้ตรวจดูดวงชะตา ท่านก็สามารถทายได้อย่างถูกต้องแม่นยำ จนชาวบ้านให้สมญานามท่านว่า “ ตาอินเทวดา” ท่านเป็นผู้ใฝ่รู้ ที่ใดมีสำนักอาจารย์ดีท่านจะไปขอสมัครเป็นศิษย์เพื่อศึกษาวิทยาการจากท่านอาจารย์เหล่านั้น ทำให้ท่านมีความรู้กว้างขวางขึ้น ตามปกติแล้วถ้าว่างจากภารกิจท่านมักไปนั่งกรรมฐานที่บริเวณเนินดิน
ที่เป็นวัดร้างเก่าแก่ที่เรียกกันทั่วไปว่า “ ป่าวัดใหญ่" วันหนึ่งขณะที่ท่านกำลังนั่งกำหนดจิตให้เป็นสมาธิอยู่นั้นก็บังเกิดนิมิต ขึ้น เห็นพระพุทธรูปองค์งาม ต่อมาท่านได้ถวายนามพระพุทธรูปองค์นี้ว่า “ หลวงพ่อใหญ่สัมมกะโท” ซึ่งประดิษฐานอยู่ในพระวิหารจนกระทั่งทุกวันนี้ ต่อมาในปีพุทธศักราช ๒๔๙๙ ท่านได้อุปสมบทอีกครั้งหนึ่งเป็นการเข้าสู่ร่มกาสาวพัตร์อย่างถาวร มีนามทางเพศบรรชิตว่า “ อิน ฉายา อินทญาโณ” ท่านได้บูรณะบริเวณเนินดินที่เป็นวัดร้างนั้นให้เป็นที่พำนักของสงฆ์และให้ ชื่อว่า “ สำนักสงฆ์วัดใหญ่ตาอิน” ท่านได้สร้างศาลา กุฏิสงฆ์ สร้างวิหารเพื่อใช้เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อใหญ่สัมมกะโท โดยท่านได้ตั้งชื่อวิหารนี้ว่า “ วิหารหลวงพ่อใหญ่ นิมิตสัมมะโท สลักวิหารตะวันวิหารสีนิลบำรุงปิ่นปกตลกนัก” แรกเริ่มไม่มีอุโบสถเพื่อใช้ทำสังฆกรรมหลวงพ่ออินท่านได้สร้างโบสถ์เล็ก ๆ ขึ้นหลังหนึ่งโดยมีน้ำล้อมรอบเป็นเขตวิสุงคามสีมาให้ชื่อว่า “ โบสถ์น้ำ” ต่อมามีพระสงฆ์มากขึ้นจึงมีพุทธศาสนิกชนผู้เลื่อมใสศรัทธาได้ร่วมกันสร้าง กุฏิและศาลาต่าง ๆ และที่สำคัญได้ร่วมกันสร้างอุโบสถขึ้นและได้รับอนุญาตพระราชทานวิสุงคามสีมา ถูกต้องตามระเบียบประเพณีและได้เปลี่ยนชื่อเป็น “ วัดราษฎร์รังสรรค์” ในปัจจุบัน หลวงพ่ออิน อินทญาโน เริ่มอาพาธด้วยโรคระบบทางเดินหายใจและในปี 2520 ก็ต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลหลายๆครั้งจนกระทั่งน่าจะเกิดจากความเจ็บป่วยเพราะโรค ชราภาพในที่สุดท่านก็ละสังขารไปด้วยอาการอันสงบเมื่อวันพฤหัสบดี กลางเดือนสี่
ปีพุทธศักราช ๒๕๒๑ สิริรวมอายุได้ ๘๒ ปี คณะศิษยานุศิษย์ได้สูญเสียพระเกจิอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีเรืองพระเวทย์พระคาถาอีกองค์ของชาวพระประแดงไปอย่างไม่มีวันกลับbbuncha ขอสาธุครับหลวงพ่อ
ิิbbuncha นำมาโชว์เพื่อการศึกษาเท่านั้นครับ